โอลิมปิกฤดูหนาว อีกก้าวของการพัฒนาวงการกีฬาไทย

เชื่อหรือไม่ว่า การที่ประเทศเมืองร้อนจะมีนักกีฬาซึ่งเชี่ยวชาญกีฬาเมืองหนาว จนสามารถส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันในโอลิมปิกฤดูหนาว ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ด้วยความที่ประเทศไทยเป็นประเทศในเขตร้อน การที่นักกีฬาจะฝึกฝนตนเองจนเก่งและมีความสามารถนั้น ต้องอาศัยความพยายามที่มากมายเกินกว่าใครจะคาดคิด แต่ไทยเราก็ได้ทำสิ่งที่ทั่วทั้งโลกต้องยกนิ้วให้ กับการส่งนักกีฬาไปชิงชัยโอลิมปิกฤดูหนาวนั่นเอง จำเป็นด้วยหรือ? ที่ประเทศเขตร้อนต้องส่งนักกีฬาเข้าชิงชัยในโอลิมปิกฤดูหนาว หากถามถึงความจำเป็น ก็คงต้องบอกว่าไม่จำเป็นสักเท่าไรนัก กับการที่ประเทศเขตร้อนอย่างประเทศไทยจะต้องส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน เพราะทั่วทั้งโลกมีหลายประเทศที่เชี่ยวชาญกีฬาเมืองหนาวกว่าไทยเรามาก ด้วยสภาพภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยหิมะ ทำให้การฝึกซ้อมและฝึกฝนไม่ใช่เรื่องยาก รวมไปถึงร่างกายของนักกีฬาที่ทนทานต่อสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ นักกีฬาซีกยุโรป หรือนักกีฬาซีกโลกตะวันตกย่อมเก่งกว่าคนไทยเราอยู่แล้ว แต่การจะนำเอาข้อจำกัดทางสภาพภูมิประเทศและสภาพร่างกายมาเป็นข้ออ้างในการไม่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน ดูจะเป็นสิ่งที่ไม่อยู่ในความคิดของนักกีฬาไทยสักเท่าไรนัก เพราะพวกเขาทั้งมุ่งมั่นและพยายามในการฝึกฝน พัฒนาตัวเองเพื่อไปสู่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว เปิดตัวนักกีฬา สู่การแข่งขันที่เป็นสากล…โอลิมปิกฤดูหนาว เคยสงสัยกันไหมว่าการส่งนักกีฬาเข้าสู่การแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว ประเทศไทยได้อะไร แท้จริงแล้ว การส่งนักกีฬาเข้าสู่การแข่งขันกีฬาเมืองหนาวเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักของนานาประเทศได้เลยทีเดียว ยิ่งประเทศไทยเป็นประเทศเขตร้อน ก็ทำให้นานาชาติทึ่งในความพยายามของคนไทย ที่แม้ว่าจะมีสถานที่ฝึกซ้อมจำกัด ไม่มีหิมะตก แต่เราก็มีนักกีฬาเมืองหนาวลงแข่งขันระดับโลกได้ ส่งเสริมศักยภาพการกีฬาของไทยแบบง่าย ๆ แค่ใช้ความพยายาม การส่งเสริมศักยภาพกีฬาของไทย ทำได้หลายด้าน แม้ไทยเราจะเก่งเรื่องของวอลเล่ย์บอล หรือกอล์ฟ มีนักกีฬาเป็นแนวหน้าของเอเชียหรือของโลก แต่หากเรามุ่งอยู่แค่กีฬาชนิดเดิม ๆ เราก็ไม่สามารถกล่าวได้เต็มปากว่าเรามีศักยภาพทางด้านการกีฬา แต่การพัฒนานักกีฬาในทุกชนิดกีฬา ทำให้ประเทศไทยสามารถเข้าร่วมการแข่งขันระดับโลกได้และเป็นที่ยอมรับของต่างชาติ จัดว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งของประเทศไทยก็ว่าได้ ในฐานะคนไทย สิ่งที่เราสามารถทำได้ก็คือการส่งใจเชียร์นักกีฬาฤดูหนาว แม้เราจะมีนักกีฬาประเภทนี้ไม่มากเท่าไรนัก แต่หากเราคนไทยไม่ส่งกำลังใจเชียร์คนไทยด้วยกันแล้ว นักกีฬาเมืองหนาวของไทยจะเอากำลังใจจากที่ไหนได้ การเลือกเชียร์กีฬาทุกชนิดกีฬาที่คนไทยลงแข่ง …

ฮอกกี้น้ำแข็งไทย ปรากฏการณ์ใหม่ที่คนไทยอาจไม่เคยรู้มาก่อน

เชื่อได้เลยว่าหลาย ๆ คนที่เพิ่งติดตามแวดวงกีฬาไทย คงจะไม่เคยรู้มาก่อนว่าไทยเรานั้นมีทีมนักกีฬาที่แข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งได้ ที่สำคัญยังก้าวไกลไปยังระดับโลกอีกด้วย ฮอกกี้น้ำแข็ง กีฬาที่สนามฝึกซ้อมมีน้อย แต่ถึงอย่างนั้น การเล่นกีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง ก็เป็นการออกกำลังกายที่น่าสนใจ เรียกเหงื่อ เติมเต็มวันธรรมดาให้สนุกสดชื่นได้อย่างน่าอัศจรรย์ จะดีกว่าไหม หากเด็กไทยจะเริ่มต้นเสริมสร้างพลังความแข็งแกร่ง ด้วยกีฬาเมืองหนาว ดับร้อนได้เป็นอย่างดี อย่าง “ฮอกกี้น้ำแข็ง” ฮอกกี้น้ำแข็ง คืออะไร เพราะกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งเป็นกีฬาเมืองหนาวที่ใหม่สำหรับคนไทยมาก หลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากีฬาฮอกกี้น้ำแข็งเล่นกันอย่างไร เพราะอะไรจึงควรสนับสนุนให้เด็กไทยเล่น ซึ่งต้องบอกเลยว่ากีฬาเมืองหนาวประเภทนี้เป็นกีฬาที่เล่นกันเป็นทีม บนพื้นน้ำแข็ง แต่ก่อนจะนิยมเล่นในประเทศที่มีน้ำแข็งเป็นพื้นอย่างแถบอเมริกาเหนือหรือแคนาดา แต่ปัจจุบันได้แพร่หลายไปทั่วโลก เพราะสนามกีฬาของฮอกกี้น้ำแข็งเองสามารถสร้างขึ้นได้ อย่างประเทศไทยเองก็มีสนามกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งเป็นของตัวเองเช่นกัน นั่นก็คือที่ลานเดอะ ลิงค์ เซ็นทรัลพระราม 9 นั่นเอง จากกีฬาสนุก ๆ สู่เส้นทางก้าวไปเป็นนักกีฬาทีมชาติ เชื่อหรือไม่ว่ากีฬาเมืองหนาวอย่างฮอกกี้น้ำแข็งที่วัยรุ่นหลาย ๆ คนเริ่มเล่นเพราะความสนุกสนาน แท้ที่จริงก็สามารถก้าวไกลไปสู่การเป็นนักกีฬาทีมชาติได้เช่นกัน ด้วยความที่นักกีฬาประเภทนี้ยังมีผู้เล่น ผู้สนใจจำนวนไม่มากนัก เยาวชนที่เล่นเป็น สามารถต่อยอดเข้าชิงเพื่อเป็นตัวแทนของประเทศไทยได้ ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสเติบโตอีกก้าวหนึ่งของเยาวชนไทย และเหมาะสมกับพ่อแม่ที่กำลังมองหากีฬาที่สามารถต่อยอดไปไกลในระดับโลกให้กับลูกของตัวเอง เป็นการพัฒนาทักษะที่ดีต่อชีวิต ธีระศักดิ์ รัตนโชติ นักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งชายทีมชาติไทย ผู้นำเทรนด์การเล่นกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งในไทย ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เริ่มต้นเล่นไอซ์สเก็ตด้วยความสนุกสนานตามประสาวัยรุ่น …

ลูจ กีฬาท้าความเป็นความตายบนเส้นทางสายน้ำแข็ง

หากเอ่ยชื่อกีฬาลูจ คนไทยร้อยทั้งร้อยแทบจะไม่รู้จักกันเลยทีเดียว สำหรับกีฬาลูจเองก็เป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬาเมืองหนาวที่ได้รับการบรรจุเป็นกีฬาที่แข่งขันในโอลิมปิกฤดูหนาว โดยกีฬาเมืองหนาว แม้จะมีหลายชนิด แต่ชนิดที่ท้าความเป็นความตายมากที่สุด ชนิดที่ว่าคนดูเองก็อดที่จะหวาดเสียวไปไม่ได้ก็คงหนีไปไม่พ้นกีฬาเมืองหนาว…ลูจ นั่นเอง หากใครที่ต้องการรู้จักกีฬาลูจให้มากกว่านี้ การศึกษาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับลูจ อาจจะทำให้ดูกีฬาชนิดนี้สนุกกว่าเดิมก็ได้ ความเร็วท้าประลองบนเส้นทางที่เหน็บหนาว เมื่อมองเผิน ๆ คนก็คงจะเห็นว่าลูจ คือกีฬาฤดูหนาวที่มีเลื่อนคันเล็ก ๆ คันหนึ่ง ไหลไปตามแรงดึงดูดของโลก โดยเส้นทางที่เลื่อนจะไถลไปเรื่อย ๆ ก็คือทางลาดน้ำแข็งที่จัดเตรียมเอาไว้ หากดูจากโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งล่าสุดที่เมืองซองพยาง หลายคนก็จะเห็นว่าเส้นทางเสี่ยงตายไม่น้อยเลยทีเดียว โดยนักกีฬาจะเริ่มต้นไถลเลื่อนไปตามรางระยะทางหนึ่งไมล์ ซึ่งคนไทยไม่คุ้นเคยกับการวัดระยะทางเป็นไมล์ แต่หากเปรียบเทียบว่าเป็นความสูงราวตึกสามชั้น หลายคนคงต้องร้องอ๋อ แล้วเชื่อหรือไม่ว่าความเร็วของลูจที่แล่นไปบนรางน้ำแข็งนี้ บางครั้งเร็วถึง 100 ไมล์/ชั่วโมง สิ่งที่จะทำให้นักกีฬาเอาชนะในเกมได้ก็คือการสไลด์เลื่อนให้เร็วกว่าผู้เข้าแข่งขันคนอื่น และยังคงอยู่ในรางเลื่อนโดยไม่ไถลออกไป แน่นอนว่าหากจะเป็นผู้ชนะในเกม รถลูจกับนักกีฬาจะต้องผสานกันเป็นหนึ่งเดียว ราวกับรถลูจเป็นอวัยวะชิ้นที่ 33 ของนักกีฬาก็ว่าได้ การพัฒนา ออกแบบ และปรับปรุงรถลูจให้เข้ากับสรีระของนักกีฬาก็จัดได้ว่าเป็นโจทย์ยากอีกโจทย์หนึ่งที่จะช่วยให้นักกีฬาไปถึงเส้นชัยได้ การมีนักออกแบบลูจและรางเลื่อนที่เป็นมืออาชีพจะทำให้ความอันตรายจากการเล่นลูจลดลงจนเปอร์เซ็นต์เกือบจะเป็นศูนย์ เส้นทางของลูจในเวทีกีฬาโลก ต้องบอกว่าเวทีกีฬาโลก ลูจเป็นหนึ่งในกีฬาที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ และได้รับการบรรจุเข้าเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาของโอลิมปิกฤดูหนาว ด้วยเสน่ห์ของการแข่งขันที่ตื่นเต้นและเร้าใจไม่แพ้มอเตอร์ไซค์ ทำให้คนดูถูกตรึงเอาไว้บนเก้าอี้ในขณะที่ทำการแข่งขันเลยก็ว่าได้ แม้ลูจ จะเป็นกีฬาที่คนไทยเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ไม่รู้จัก ซึ่งไม่น่าแปลกแต่อย่างใด เพราะโดยพื้นฐานแล้วประเทศไทยเป็นเมืองร้อน …

4 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเล่นสกีของคนไทย

เอ่ยถึงกีฬาเมืองหนาวอย่าง “สกี” คนไทยคงได้แต่นิ่วหน้า เพราะเป็นกีฬาที่คนเมืองร้อนไม่มีประสบการณ์สักเท่าไรนัก แต่ด้วยความที่ปัจจุบัน การเดินทางข้ามโลกเป็นเรื่องง่ายเสียยิ่งกว่าง่าย หากนึกอยากเล่นสกี ก็แค่จองตั๋วเครื่องบินโปรโมชั่นราคาถูก แล้วบินลัดฟ้าไปที่ญี่ปุ่นหรือเกาหลีใต้ ก็ได้เล่นสกีแล้ว แต่สำหรับใครที่อยากเล่นสกี ควรหาความรู้เบื้องต้นก่อนเริ่มเล่นสกีน่าจะดีที่สุด เพราะบางครั้งอาจจะมีเรื่องที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับสกีก็เป็นได้ 1.เครื่องแต่งกายสำหรับเล่นสกี ต้องหนาไว้ก่อน หลาย ๆ คนเข้าใจว่าในเมื่อสกีเป็นกีฬาเมืองหนาว สภาพภูมิอากาศเป็นหิมะโดยรอบ ดังนั้นอุณหภูมิก็น่าจะต่ำกว่า 0 องศา เครื่องแต่งกายควรหนามากที่สุด แต่รู้หรือไม่ว่านั่นเป็นความเข้าใจที่ผิด แม้เครื่องแต่งกายสำหรับเล่นสกีควรที่จะมีความหนา แต่ต้องเลือกแบบที่ระบายอากาศด้วย เพราะเมื่อยามที่เล่นสกีไปได้สักพัก ร่างกายจะเริ่มอุ่นขึ้นจนมีเหงื่อไหลออกมา การเลือกผ้าร่ม หรือเลือกเสื้อผ้าที่การระบายอากาศไม่ดี อาจจะส่งผลเสียในขณะที่เล่นสกีได้ 2.ไม้สต็อกไม่จำเป็นต้องใช้ก็ได้ หากเราสังเกตดี ๆ จะพบว่าขณะที่เล่นสกี นักกีฬาจะมีไม้ค้ำยันเอาไว้ด้วยเพื่อช่วยในการประคองตัว ซึ่งแน่นอนว่ามือใหม่ทุกคน ไม่ควรละเลยอุปกรณ์กีฬาเมืองหนาวนี้เป็นอันขาด ไม้สต็อกที่ดีจะช่วยให้การทรงตัวหรือการไถลตัวของนักกีฬาเป็นไปได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย 3.เอเชียอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ราคาถูกที่สุด หลาย ๆ คนคิดว่าหากต้องการเล่นสกีให้ประหยัดที่สุด ควรเลือกเล่นสกีในแถบทวีปเอเชีย อย่างเช่นญี่ปุ่นหรือเกาหลีใต้ แต่แท้ที่จริงแล้วการเล่นสกีในทวีปเอเชีย อาจประหยัดแค่เพียงค่าเดินทางเท่านั้น ทว่าค่าครองชีพ ค่าเช่าโรงแรม และค่าจิปาถะอื่น ๆ ของญี่ปุ่น ราคาสูงกว่าการไปเล่นสกีในยุโรปเสียอีก ดังนั้นหากต้องการให้ทริปการเล่นสกีเป็นทริปที่ประทับใจที่สุด ควรพิจารณาทั้งค่าตั๋วเครื่องบิน …

สเกเลตัน กีฬาท้าความเร็วบนแผ่นน้ำแข็ง

กีฬาเมืองหนาวมีหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดก็มีความโดดเด่นแตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างกีฬาเมืองหนาวก็ได้แก่ กีฬาสโนว์บอร์ด สกี สเก็ตน้ำแข็ง แต่อย่างไรก็ดี กีฬาที่เรียกได้ว่าท้าความเร็ว ชวนให้ตื่นเต้นจนต้องกลั้นหายใจก็คงหนีไม่พ้นสเกเลตันนั่นเอง สเกเลตัน จะท้าความเร็ว เฉียดองศาความแรงอย่างไรกันแน่ สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่คนรักกีฬาเมืองหนาวทุกคนควรรู้ สเกเลตัน ความสนุกท้าตาย หากบอกว่าสเกเลตันเป็นกีฬาเมืองหนาวท้าตายก็คงไม่ผิดสักเท่าใดนัก เพราะว่าสเกเลตันเป็นกีฬาของการท้าความเร็ว นักกีฬาที่ลงแข่งขันจะมีเลื่อนประจำตัวซึ่งเป็นแผ่นกระดานสำหรับเลื่อนไถลไปบนน้ำแข็งโดยเฉพาะ และเมื่อได้รับสัญญาณว่าเริ่มการแข่งขันได้ นักกีฬาจะไม่ได้เลื่อนไปด้วยแผ่นกระดานนี้ แต่จะวิ่งโดยใช้มือจับเลื่อนก่อน จากนั้นเมื่อได้ความเร็วสักพักจะเหวี่ยงตัวเองขึ้นไปบนกระดานเลื่อนนั้นและไถลไปบนเส้นทางสายน้ำแข็ง การเหวี่ยงตัวเอง ต้องอาศัยความชำนาญอย่างมาก ที่สำคัญต้องมีความแม่นยำพอสมควร เพราะความเร็วและความลื่นของพื้นน้ำแข็ง อาจจะทำให้กะจังหวะผิดพลาด จนเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จะเห็นนักกีฬาสเกเลตันทุกคน มีอุปกรณ์ป้องกันอันตรายหลายต่อหลายอย่าง ทั้งรองเท้าที่เหมาะสม หมวกกันน็อคที่พอดีกับศีรษะ และการแต่งกายที่รัดกุมสามารถป้องกันความหนาวเหน็บของพื้นน้ำแข็งได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อับ ระบายยาก จนทำให้เกิดการอึดอัดในขณะที่เล่นกีฬาชนิดนี้ ซึ่งการแต่งกายก็ล้วนแล้วแต่เพื่อความปลอดภัยทั้งสิ้น เพราะว่าหนทางในการแข่งขัน มีทั้งทางโค้ง ทางเรียบ แต่ในขณะเดียวกันก็ไหลไปตามแรงโน้มถ่วงของพื้นโลก และในยามที่เข้าโค้งก็ใช้ความเร็วสูง ชนิดที่ว่าคนดูแทบจะลืมหายใจและลุ้นไปกับนักกีฬา สเกเลตันกับลูจ ความเหมือนในความแตกต่าง หากดูเผิน ๆ ทั้งสเกเลตันกับลูจมีความคล้ายคลึงกันพอสมควร คือการเป็นกีฬาฤดูหนาว แต่แตกต่างกันที่ลูจจะเริ่มต้นด้วยการนั่งบนพื้นเลื่อนไปเลยตั้งแต่ตอนเริ่มต้น และเมื่อออกตัวแล้ว นักกีฬาจะนอนหงายท้าความเร็ว ในขณะที่สเกเลตันจะเริ่มต้นด้วยการวิ่งไปพร้อมกับเลื่อน และค่อยเหวี่ยงตัวขึ้นไปบนเลื่อนเมื่อได้ความเร็วระดับหนึ่งแล้ว อีกทั้งในตอนที่กำลังแข่งขัน …

เคอร์ลิง เปตองเมืองหนาว ที่ยังไม่โด่งดังในประเทศไทย

หากเอ่ยชื่อกีฬาเปตอง หลาย ๆ คนคงคุ้นหูกันดีอยู่แล้ว เพราะกีฬาเปตอง เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยอย่างมาก โดดเด่นด้วยการเป็นกีฬาที่ใช้สมาธิ และต้องพยายามให้เข้าใกล้จุดศูนย์กลางหรือเป้าหมายมากที่สุด แม้ว่าการเล่นเคอร์ลิงในประเทศไทยจะไม่แพร่หลายเลย ด้วยสภาพอากาศและสภาพภูมิประเทศที่ไม่อำนวย แต่กีฬาชนิดนี้ก็ดูสนุกและตื่นเต้นไม่แพ้การเล่นกีฬาชนิดอื่น ๆ มาทำความรู้จักเคอร์ลิง…กีฬาเมืองหนาว ที่คนเมืองร้อนก็ดูสนุกกันเถอะ เคอร์ลิง กีฬาที่ใช้หลักฟิสิกส์มากกว่าที่คิด หากเราดูในคลิปวิดิโอการแข่งขันเคอร์ลิง สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือสถานที่แข่งขันจะเป็นสนามที่ฉาบหน้าด้วยน้ำแข็ง และใช้ไม้ในการเล่นเป็นหลัก ก่อนอื่นเราจะเห็นอุปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นก้อนแกรนิตรูปกลม ๆ ซึ่งนักกีฬาจะต้องผลักและดันให้ก้อนหินหรือที่เรียกกันว่า “Stone” เข้าไปใกล้เป้าหมายที่เรียกว่า “Home” ที่สุด ซึ่งอีกอุปกรณ์หนึ่ง ที่คุณแม่บ้านเห็นแล้ว คงอยากให้นักกีฬาเคอร์ลิง มาช่วยถูบ้านให้ เพราะว่าอุปกรณ์ที่นักกีฬาใช้จะเหมือนไม้ถูพื้น ที่ถูน้ำแข็งรอบ ๆ “Stone” แต่ละรอบของการแข่งขัน แต่ละทีมจะมี “Stone” คนละ 8 ก้อน โดยหากครบรอบแล้ว “Stone” ของทีมไหนเข้าใกล้กับ “Home” มากที่สุดก็จะได้หนึ่งคะแนน ซึ่งหากดูแล้ว ศาสตร์ของกีฬาเมืองหนาวชนิดนี้ ที่ต้องเชี่ยวชาญให้มากที่สุดก็คือวิชาฟิสิกส์ บวกกับการวางแผนให้ “Stone” เข้าใกล้ “Home” ก็เปรียบได้กับการวางแผนรบเลยทีเดียว รู้หรือไม่ ก่อนหน้านี้เคอร์ลิงเคยถูกถอดออกจากกีฬาโอลิมปิกด้วย …