จีน กับการจัดโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 2022

หากเอ่ยถึงประเทศที่สมควรเป็นเจ้าภาพในการจัดโอลิมปิกฤดูหนาว หลาย ๆ คน คงจะจินตนาการไปถึงประเทศที่เชี่ยวชาญกีฬาเมืองหนาว และปกคลุมไปด้วยหิมะ อย่างประเทศแคนาดา สวีเดน นอร์เวย์ หรือแถบอเมริกาเหนือ รวมไปถึงรัสเซีย แต่ใครจะไปเชื่อว่าเจ้าภาพการจัดโอลิมปิกฤดูหนาวที่คว้าตำแหน่งการเป็นเจ้าภาพไปครองแบบม้านอกสายตา เหนือความคาดหมายของคนที่ติดตามข่าวการกีฬาเมืองหนาวก็คือ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เพื่อนบ้านของไทยไม่ใกล้ไม่ไกลเราเลยสักนิด

จีนกับความมุ่งมั่นไปสู่แถวหน้าของโลกจากการจัดโอลิมปิก

แม้ว่าประเทศจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรุงปักกิ่งที่เป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2022 จะไม่มีหิมะธรรมชาติเลย แต่เหตุผลที่นานาชาติต่างเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศจีนก็คือการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของจีนในช่วงเวลาที่ผ่านมา เริ่มต้นจากการเป็นประเทศที่มีพื้นที่และประชากรมากที่สุดในโลก จากประเทศกำลังพัฒนาเมื่อหลายปีที่แล้ว แต่มาวันนี้จีนกลับมาเป็นแถวหน้าของโลกจนสามารถต่อกรกับยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างอเมริกาได้ นอกจากนี้ โอลิมปิกครั้งที่ผ่านมา จีนเองก็ยังพิสูจน์ให้เห็นว่าไม่มีสิ่งใดเกินความสามารถของจีนไปได้เลย

การทุ่มทุนสร้างของจีนกับโอลิมปิกฤดูหนาว

หลายคน เมื่ออ่านมาจนถึงตรงนี้แล้ว เริ่มสงสัยกันใช่ไหมว่าในเมื่อกรุงปักกิ่งไม่มีหิมะธรรมชาติ แล้วทางจีนซึ่งเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว มีการแก้ไขปัญหาเรื่องสนามแข่งขันกีฬาเมืองหนาวอย่างไร แท้ที่จริงแล้วจีนมีการเตรียมการเรื่องการแข่งขันกีฬาเมืองหนาวไว้หลายด้านเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการที่กรุงปักกิ่งร่วมมือกับนครจังจยาโข่ว ซึ่งมีสถานที่ในการแข่งขันกีฬาฤดูหนาว เช่น สนามสกีรีสอร์ทและลานน้ำแข็งอยู่แล้ว จากการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเมื่อปี 2008 นอกจากนี้ยังมีการดึงน้ำจากตอนใต้ของจีนมายังตอนเหนือของจีน เพื่อใช้น้ำ ปัจจัยสำคัญในการทำลานน้ำแข็ง สนามแข่งขันกีฬาหลายชนิดของโอลิมปิกฤดูหนาวนั่นเอง นครจังจยาโข่ว อยู่ใกล้กับมองโกเลีย แต่แม้ว่าจะเป็นพื้นที่ซึ่งมีหิมะตกของจีนก็ตาม อย่างไรก็ดีหิมะก็ไม่เพียงพอ ทำให้ต้องสร้างหิมะเทียม

นอกจากจะทุ่มทุนสร้างกับสนามการแข่งขันแล้ว ประเทศจีนยังลงทุนเรื่องการขนส่งสาธารณะระหว่างกรุงปักกิ่งกับนครจังจยาโข่ว โดยสร้างรถไฟความเร็วสูง ร่นระยะการเดินทางให้เหลือเพียง 50 นาทีเท่านั้น จัดเป็นการลงทุนด้วยเม็ดเงินมหาศาล ซึ่งเป็นที่น่าจับตามองว่า หลังจากจบการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวในครั้งนี้แล้ว ประเทศจีนจะเจ็บปวดหรือมีปัญหาทางเศรษฐกิจเหมือนกับประเทศกรีซที่ประสบภาวะล้มเหลวทางเศรษฐกิจจากการจัดโอลิมปิกหรือไม่

ในฐานะคนนอกอย่างไทยเรา สิ่งที่ทำได้มีแค่เพียงการจับตามองว่าหนทางการจัดโอลิมปิกฤดูหนาวของจีนจะเป็นอย่างไร รวมทั้งจับตามองการคัดตัวนักกีฬาฤดูหนาวทีมชาติไทยเพื่อส่งไปชิงชัยในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2022 นี้ ส่วนการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาวของไทย คงเป็นฝันที่ไกลเกินเอื้อม เพราะเราไม่มีทั้งหิมะ ไม่มีทั้งเม็ดเงินลงทุนมหาศาลอย่างประเทศจีนนั่นเอง