การเล่นสกี (Ski) และ Cross Country Skiing เหมือนหรือต่างกันอย่างไร เรามีคำตอบให้ตรงนี้

กีฬาสกี (Ski) นับว่าเป็นกีฬาที่เหมือนเป็นสัญลักษณ์ของกีฬาฤดูหนาวไปแล้ว และยังเป็นกีฬาที่คนนิยมเล่นกันเยอะมาก สังเกตได้จากการที่มีสกีรีสอร์ทเปิดให้บริการในประเทศต่าง ๆในช่วงของฤดูหนาวที่มีหิมะและน้ำแข็งปกคลุม รวมถึงการถูกบรรจุเป็นกีฬาที่ใช้ในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวอีกด้วย การเล่นสกีในต่างประเทศจริง ๆ แล้วมีรูปแบบอื่นที่คนไทยอาจจะไม่คุ้นเคยมากนัก วันนี้เราจึงมีประเภทของการเล่นสกีมาบอกกล่าวกันให้หายสงสัยไปเลย

รูปแบบของการเล่นสกี และความนิยมในต่างประเทศ

รูปแบบของกีฬาสกี (Ski) แบ่งออกเป็น 2 แบบหลัก ๆ นั่นคือ Alpine Skiing และ Cross Country Skiing ซึ่งขออธิบายจำแนกประเภทของการเล่นสกีดังต่อไปนี้

Alpine Skiing หรือการเล่นสกีอัลไพน์ แบบที่เราเคยเห็นในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว หรือ ในสกีรีสอร์ท ซึ่งจะเป็นพื้นที่ที่มีหิมะทั้งหมด ส่วนใหญ่แล้วจะต้องเล่นในพื้นที่ที่เป็นสโลป เช่น เนินเขาที่มีความชัน และจะถูกกำหนดขอบเขตไว้เป็นการป้องกันจุดที่อาจจะเกิดหิมะถล่มลงมาได้

ประเภทต่าง ๆ ของการเล่นสกีอัลไพน์ คือ การสกีลงจากเขาด้วยความเร็วซึ่งมีประเภทความเร็ว 2 ประเภท คือ Super G และ Downhill เป็นการสกีลงเขาด้วยความเร็วเพียงอย่างเดียว มีระยะทางยาวจึงต้องควบคุมทิศทางและความเร็วในขณะเลี้ยวซ้าย หรือขวาให้ดี ซึ่งการใช้ความเร็วในระดับ Super G จะน้อยกว่า Downhill

ส่วนประเภทเทคนิค ได้แก่ Slalom และ Giant Slalom ถ้าเราเคยดูการแข่งขันสกีอัลไพน์ นักกีฬาจะต้องทำการสกีซิกแซกระหว่าง Poles หรือ ระหว่างเกท ระยะห่างของ Poles ก็จะเรียงลำดับความห่างจากน้อยไปมาก สังเกตว่าถ้าระยะ Pole กว้างแสดงว่านักกีฬาต้องใช้ความเร็วสูง ซึ่งขึ้นอยู่กับทักษะของผู้เล่น ในประเภทนี้ความเร็วของ Slalom ก็จะน้อยกว่า Gliant Slalom นั่นเอง

Cross Country Skiing ถ้าให้แปลตรง ๆ คือ สกีข้ามทุ่ง ซึ่งอาจจะฟังดูแปลกสักหน่อย อาจจะเรียกว่าสกีพื้นราบก็ได้ ตามแต่คนจะเรียกกัน สกีประเภทนี้เล่นง่ายมาก เพราะเล่นไปตามแนวราบเป็นระยะทางยาว เป็นการออกกำลังกายแบบหนึ่ง เพราะการเล่นสกีแบบนี้มักจะลัดเลาะไปตามป่าเขา ทุ่งกว้างตามชนบท หรือการสกีข้ามจากเมืองหนึ่งสู่อีกเมืองหนึ่ง และในประเทศเมืองหนาวบางแห่งใช้การสกีแบบนี้แทนการขับรถตามถนนที่มีแต่หิมะเนื่องจากสะดวกกว่า อาจจะเป็นการไปซื้อของใกล้บ้าน เป็นต้น

สังเกตได้ว่า สกีแบบครอสคันทรี่สามารถเล่นที่ไหนก็ได้ ไม่มีจำกัดพื้นที่แค่ตรงลานสกีเท่านั้น แค่ตรงไหนมีลานหิมะก็สามารถไปเล่นได้แถมได้ชื่นชมธรรมชาติสองข้างทาง ความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บจากการเล่นสกีประเภทนี้ น้อยกว่าสกีอัลไพน์มาก

ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก Cross Country Skiing ถูกนำมาผสมผสานกับการแข่งกีฬา Biathlon ที่ต้องใช้ความเร็วในการสกี และความแม่นของการยิงปืน (Rifle Shooting) อีกด้วย นอกเหนือจากนั้นก็มีการแข่งขันแยกตามประเภทของสกีครอสคันทรี่ เช่น แข่งประเภทเดี่ยว ประเภททีม โดยมีระยะทางกำหนด เป็นต้น

สรุปได้ว่าไม่ว่าจะเป็น Alpine Skiing หรือ Cross Country Skiing เป็นการเล่นสกีที่เหมือนกัน แต่แตกต่างกันในรูปแบบของการเล่น การแข่งขัน และความเสี่ยงในการใช้ความเร็ว และรวมถึงความชอบส่วนบุคคลด้วย ซึ่งทั้งสองประเภทนี้ต่างก็ได้รับความนิยมมากพอ ๆ กัน ในต่างประเทศ เนื่องจากแต่ละประเภทก็ย่อมมีเสน่ห์แตกต่างกันไปนั่นเอง